เพลงโรงเรียนในฝัน

*มีบ้างไหมที่เคยคิด ให้ชีวิตเป็นดั่งฝัน
ไปไกลกว่าคืนวันมีปัญหา จะยากดี มีหรือจน
ทุกทุกคนมีความหวัง การศึกษาคือพลังชุบชีวา
**การศึกษาใหม่ ช่วยชุมชนแก้ไขปัญหา
ความจนยากไร้ ปัญหาใดใดพ่ายเจตนา
ของเด็กนักสู้ รู้จักเรียนรู้ตลอดชีวา
โรงเรียนในฝัน ขุมพลังปัญญาของชุมชนไทย
***รวมกำลังประชาไทย โรงเรียนไทยพัฒนา
สร้างชาติด้วยปัญญาของเด็กไทย จากวันนี้เราจะฝัน
เพื่อพรุ่งนี้สวยสดใส ชุมชนทั่วแดนไทยวิวัฒนา
ไปไกลกว่าคืนวันมีปัญหา จะยากดี มีหรือจน
ทุกทุกคนมีความหวัง การศึกษาคือพลังชุบชีวา
**การศึกษาใหม่ ช่วยชุมชนแก้ไขปัญหา
ความจนยากไร้ ปัญหาใดใดพ่ายเจตนา
ของเด็กนักสู้ รู้จักเรียนรู้ตลอดชีวา
โรงเรียนในฝัน ขุมพลังปัญญาของชุมชนไทย
***รวมกำลังประชาไทย โรงเรียนไทยพัฒนา
สร้างชาติด้วยปัญญาของเด็กไทย จากวันนี้เราจะฝัน
เพื่อพรุ่งนี้สวยสดใส ชุมชนทั่วแดนไทยวิวัฒนา
ซ้ำ***

โครงการพัฒนาโรงเรียนในทุกๆอำเภอทั่วประเทศ จำนวน ๗๙๕ โรงเรียนในจำนวน ๗๙๕ อำเภอ โดยให้แต่ละอำเภอมี ๑ โรงเรียน ซึ่งนโยบายหนึ่งอำเภอ หนึ่งโรงเรียนในฝันนี้จะเน้นการปูพื้นฐานการเรียนรู้ให้กับเด็กตั้งแต่วัย ปฐมวัยให้รู้จักการวิเคราะห์เป็น และรู้จักใช้ความคิด พิจารณาในเรื่องที่เราสนใจ รวมทั้งเป็นการช่วยผู้ปกครองอีกทางด้านหนึ่งด้วย กล่าวคือ ในบางเรื่องที่ผู้ปกครองไม่มีความรู้ความสามารถก็อาจจะไม่สามารถที่จะสอน บุตรหลานได้ก็จะได้มีกิจกรรมเสริมสมรรถภาพ ประกอบกับในปัจจุบันโรงเรียนดีมีมาตรฐาน มักจะรวมกันอยู่ในเขตกรุงเทพฯและในเมืองใหญ่ๆ ส่วนในเขตอำเภอต่าง ๆ ในต่างจังหวัดยังขาดแคลนโรงเรียนที่มีคุณภาพอีกทั้งเด็กในชนบทมีความยากจน ผู้ปกครองไม่มีความสามารถที่จะส่งให้เด็กได้เล่าเรียนในโรงเรียนที่มีชื่อ เสียง ดังนั้นจึงเกิดโครงการหนึ่งอำเภอ หนึ่งโรงเรียนในฝันขึ้น เพื่อขจัดปัญหาความเลื่อมล้ำทางด้านวิชาการของโรงเรียนต่าง ๆ ตลอดจนเพื่อให้เยาวชนไทยที่อยู่ห่างไกลได้เติบโตด้วยความพร้อมในทุกๆด้าน มีโอกาสเข้าถึงแหล่งข้อมูลความรู้และพร้อมที่นำพาประเทศก้าวไปสู่ความเจริญ ยิ่ง ๆ ต่อไป

๑. ทางคณะกรรมการและทุกฝ่ายของโครงการจะต้องทำความเข้าใจกับทุกส่วนของสังคมใน เขตของอำเภอที่ดำเนินโครงการว่าโรงเรียนนั้นมีปัญหาด้านใดบ้าง ควรพัฒนาอย่างไร
๒. การคัดเลือกโรงเรียน โดยเลือกอำเภอละ ๑ โรงเรียน ในสังกัดกรมสามัญศึกษาและสปช. โดยคิดถึงประโยชน์ร่วมที่ประชาชนจะได้รับและจำนวนนักเรียนจะต้องไม่น้อยเกิน ไป และการคัดเลือกจะต้องให้ชุมชนร่วมคัดเลือกด้วย เพื่อที่จะพัฒนาให้ตรงกับสิ่งที่ชุมชนต้องการ
๓. โครงสร้างและวิธีงบประมาณ จะออกแบบโครงสร้างแบบอิสระ (นอกกรอบราชการ) งบประมาณและค่าใช้จ่ายในการดำเนินงานจะเน้นที่จำนวนนักเรียน (จำนวนครู : นักเรียน)
๔. การพัฒนาผู้บริหาร อาจจะมีการประเมินผู้บริหารโดยการสำรวจละจัดทำลำดับความนิยม โดยทำเป็นทะเบียนรายชื่อครูต้นแบบทั้งกรมสามัญและ สปช. และจัดทำหลักเกณฑ์การพัฒนา การฝึกอบรมในช่วงปิดเทอมแรกปี ๒๕๔๖ รวมทั้งวางแผนด้านงบประมาณด้วย
๕. เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร (ICT) เพื่อการเรียนรู้ ต้องออกแบบให้เด็กใช้เทคโนโลยีให้เกิดประโยชน์สูงสุดและโรงเรียนในฝันจะต้อง มีข้อมูลสำคัญๆ เช่น รายชื่อนักเรียน จำนวนและรายชื่อครู อุปกรณ์การเรียนการสอน และหลักสูตร โรงเรียนในฝันแต่ละโรงเรียนสามารถเชื่อมโยงถึงกัน เพื่อแลกเปลี่ยนความรู้และพัฒนาร่วมกัน
๖. วิธีการกำกับ ติดตามและประเมินผล เป็นการประเมินผลเชิงวิจัยเพื่อพัฒนา ที่มีหลักเกณฑ์ชัดเจน
๗. การทำการประชาสัมพันธ์โครงการ จัดทำข้อมูลเพื่อแถลงข่าว และเอกสารเผยแพร่โครงการสู่สาธารณชนให้มีความเข้าใจและเห็นภาพโครงการชัดเจน ตามข้อเท็จจริงที่ถูกต้อง อย่างมีเหตุผล
บทสรุปสำหรับผู้บริหาร (Executive Summary)

คณะรัฐมนตรีได้ลงมติเห็นชอบในหลักการโครงการหนึ่งอำเภอ หนึ่งโรงเรียนในฝัน(Lab School) เมื่อวันที่ ๒๒ เมษายน ๒๕๔๖ และมอบหมายให้กระทรวงศึกษาธิการดำเนินโครงการพัฒนาแนวคิดและหลักการโดยมี ความเชื่อที่ว่าการศึกษาสามารถพัฒนาบุคคลให้เป็นบุคคลที่มีคุณภาพ สามารถลดช่องว่างของบุคคลในสังคมลงได้ ซึ่งจะส่งผลให้ประชาชนชาวไทยสามารถหลุดพ้นจากวงจรความยากจน ซึ่งเป็นความมุ่งมั่นที่สำคัญของรัฐบาล ดังนั้น โครงการ ๑ อำเภอ ๑ โรงเรียนในฝัน จึงเป็นกระบวนการพัฒนาโรงเรียนให้เป็นโรงเรียนในฝันของคนในสังคมที่ต้องการ ให้เด็กและเยาวชนได้เข้าเรียนในโรงเรียนที่มีคุณภาพและในขณะเดียวกันโครงการ นี้ก็จะช่วยทำให้ความฝันของคนในสังคมเป็นจริงได้ สรุปสาระสำคัญ ดังนี้
๑. การคัดเลือกโรงเรียนเข้าร่วมโครงการในแต่ละอำเภอควรเป็นไปตามเจตนารมณ์และความต้องการของประชาชนส่วนใหญ่ในพื้นที่
๒. การพัฒนาปรับปรุงโรงเรียนในฝันในด้านต่างๆ นอกจากใช้งบประมาณแผ่นดินแล้วควรประสานกับภาคเอกชนและรัฐวิสาหกิจที่มี ศักยภาพเพื่อเป็นเจ้าภาพหลักที่จะให้การสนับสนุนโรงเรียนแต่ละแห่งอย่างเป็น รูปธรรมและต่อเนื่อง โดยให้ประสานกับกระทรวงการคลังเพื่อหามาตรการทางภาษีที่เหมาะสมและสร้างแรง จูงใจให้ภาคเอกชนเข้ามามีส่วนร่วมและสนับสนุนการดำเนินการของโรงเรียนใน โครงการนี้ต่อไป
๓. ควรระดมความร่วมมือจากสถาบันอุดมศึกษาและสถาบันราชภัฏในพื้นที่ให้เข้ามามี ส่วนร่วมในการจัดการเรียนการสอนและเพิ่มพูนทักษะการปฏิบัติจริงแก่นิสิตนัก ศึกษาเสมือนเป็นโรงเรียนสาธิตของสถาบันนั้น ๆ
แนวคิดโครงการ
พื้นฐานแนวคิดโครงการหลอมรวมจากความฝันอันสูงสุดของผู้มีส่วนเกี่ยวข้องกับ การจัดการศึกษาทั้งภาครัฐ ภาคเอกชน ตลอดจนพ่อแม่ ผู้ปกครองและชุมชนในท้องถิ่นที่ต้องการมีส่วนร่วมในการพัฒนาคุณภาพการศึกษา ของโรงเรียนในสังกัดกระทรวงศึกษาธิการ ดังนี้
๑. การกระจายโอกาสทางการศึกษาแก่เด็กและเยาวชนไทยให้ได้รับการศึกษาขั้นพื้นฐาน ที่มีคุณภาพได้มาตรฐานเทียบเคียงกับโรงเรียนชั้นนำ เป็นที่ยอมรับและศรัทธาของนักเรียน ผู้ปกครองและชุมชนเพื่อลดช่องว่างและความเหลื่อมล้ำทางสังคม ดังนี้



๒. การจัดการศึกษาที่มีคุณภาพได้มาตรฐานโดยการปฏิรูปการเรียนรู้ที่เน้นผู้ เรียนเป็นสำคัญสอดคล้องกับความต้องการของท้องถิ่นจัดบรรยากาศการเรียนรู้ที่ เอื้อต่อการพัฒนาศักยภาพของผู้เรียนบนพื้นฐานความเป็นไทยและความเป็น ประชาธิปไตยเป็นต้นแบบและพี่เลี้ยงให้กับโรงเรียนอื่น
๓. การพัฒนาสื่อและเทคโนโลยีที่ทันสมัยและมีจำนวนเพียงพอเป็นระบบเครือข่ายและ เอื้อต่อการเรียนรู้ร่วมกันโดยเน้นการใช้เทคโนโลยีสารสนเทศและภาษาอังกฤษ เป็นเครื่องมือในการสืบค้นข้อมูลเพื่อให้ทันต่อการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว ของโลกในอนาคต
๔. การพัฒนาคุณภาพเด็กและเยาวชนไทยให้เติบโตขึ้นเป็นคนที่มีคุณภาพตามมาตรฐาน การศึกษาของชาติ รักการเรียนรู้ตลอดชีวิต รู้จักคิดวิเคราะห์ มีความเชื่อมั่นในตนเอง กล้าแสดงออก สามารถก้าวเข้าสู่เวทีการแข่งขันได้ในระดับสากล
๕. การบริหารจัดการทั้งระบบโดยใช้โรงเรียนเป็นฐานให้มีจำนวนผู้บริหารครูและ บุคลากรมืออาชีพอย่างเพียงพอ มีอิสระในการทำงานอย่างคล่องตัว มีการพัฒนาด้านกายภาพอย่างเหมาะสมต่อการพัฒนาคุณภาพชีวิต
๖. การเสริมสร้างความเข้มแข็งทางวิชาการ โดยเน้นการมีส่วนร่วมของผู้มีส่วนเกี่ยวข้องและชุมชนใน ท้องถิ่นให้เป็นแหล่งเรียนรู้ เกื้อกูลซึ่งกันและกันเป็นแหล่งค้นคว้าวิจัยและเป็นโรงเรียนสาธิตการฝึกอบรม ครูจากสถาบันการศึกษาในระดับอุดมศึกษาในพื้นที่
๗. การวัดประเมินผลเน้นการประเมินเพื่อการพัฒนาตนเองภายในโรงเรียนและการรับรอง คุณภาพตามมาตรฐานการศึกษาชาติโดยการประเมินจากองค์กรทั้งภายในและภายนอก
ผลการดำเนินงาน
กระทรวงศึกษาธิการได้แต่งตั้งคณะกรรมการนโยบายหนึ่งอำเภอ หนึ่งโรงเรียนในฝันจากทุกกระทรวง ทบวง กรมที่เกี่ยวข้องโดยกำหนดให้โครงการ ๑ อำเภอ ๑ โรงเรียนในฝัน เป็นโครงการที่ให้โอกาส ให้ความเสมอภาคและพัฒนาคุณภาพการศึกษาที่เกิดจากการร่วมคิด ร่วมทำ ร่วมตัดสินใจและชื่นชมผลงานร่วมกันของทุกฝ่ายอย่างแท้จริง เพื่อให้สามารถพัฒนาคุณภาพนักเรียน ครู ผู้บริหารและโรงเรียนให้สมบูรณ์แบบกลายเป็นฝันที่เป็นจริงของทุกคนในยุค ปฏิรูปการศึกษาให้เกิดขึ้นพร้อมกันในวันที่ ๑ ตุลาคม ๒๕๔๖ นี้โดยมีกระบวนการขับเคลื่อนการพัฒนาอย่างเป็นระบบและต่อเนื่อง ตรงตามเป้าหมายของโครงการที่กำหนดไว้ ดังนี้
๑. การคัดเลือกโรงเรียนสำนักงานคณะกรรมการการประถมศึกษาแห่งชาติและกรมสามัญ ศึกษาได้ร่วมกันกำหนดเกณฑ์การคัดเลือกโรงเรียนเพื่อให้แต่ละอำเภอใช้เป็นแนว ทางการคัดเลือกโรงเรียนขนาดกลางที่มีความพร้อมทางด้านสาธารณูปโภค ทำเลที่ตั้งเหมาะสม ผู้บริหารและครูมีศักยภาพเพียงพอ และที่สำคัญที่สุดคือได้รับการคัดเลือกจากประชาชนในท้องถิ่น โดยจะประเมินสภาพจริงของแต่ละโรงเรียนก่อนการพัฒนา จำนวนรวมทั้งสิ้น ๙๒๑ โรงเรียนใน ๗๙๕ อำเภอ ๘๑ กิ่งอำเภอและ๔๕ เขตในกรุงเทพมหานคร โดยจำแนกได้ดังนี้


๒. การพัฒนาบุคลากร ประกอบด้วย
๒.๑ ผู้รับผิดชอบ คือคณาจารย์จากมหาวิทยาลัยสถาบันราชภัฏ สถาบันราชมงคลและโรงเรียนเอกชนที่ได้มาตรฐานในแต่ละพื้นที่เป็นพี่เลี้ยงใน การพัฒนาอย่างต่อเนื่อง
๒.๒ ผู้รับการพัฒนาได้แก่ คณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน ผู้บริหารโรงเรียน ครูผู้สอน จำนวนทั้งสิ้นประมาณ ๒๕,๐๐๐ คน จาก ๙๒๑ โรงเรียน โดยมีกระบวนการพัฒนา ดังนี้



๒.๓ แนวทางการพัฒนาบุคลากรที่สำคัญ คือการปรับเปลี่ยนกระบวนทัศน์ พัฒนาศักยภาพการเป็นพี่เลี้ยงให้การสนับสนุนที่เข้มแข็ง การประเมินผล ยกย่อง เชิดชูเกียรติ
๓. การพัฒนาหลักสูตรและการจัดการเรียนการสอน ประกอบด้วย




๔. การจัดทำระบบเทคโนโลยีสารสนเทศเพื่อการสื่อสาร(ICT) ประกอบด้วย




๕. โครงสร้างและการบริหารโรงเรียน




๖. การกำกับ ติดตามและประเมินผลโครงการ ประกอบด้วย




๗. การประชาสัมพันธ์ ประกอบด้วย



๘. การสนับสนุนโครงการ


ผลที่คาดว่าจะได้รับ
๑. เด็กและเยาวชนไทยมีโอกาสได้รับการศึกษาในโรงเรียนที่มีคุณภาพ ส่งผลให้เป็นบุคคลที่มีคุณภาพของประเทศในอนาคตต่อไป
๒. มีโรงเรียนที่มีคุณภาพ เป็นที่ยอมรับ เชื่อมั่น ของสังคม พร้อมทั้งได้มาตรฐานและมีความเท่าเทียมกันกระจายอยู่ทุกอำเภอทั่วประเทศไทย
ความสัมพันธ์ระหว่าง
"มาตรฐานการศึกษา" "โรงเรียน" และ "ช่องว่างทางสังคม"วิเคราะห์ความสัมพันธ์ของ
"วงจรระบบการศึกษา" ที่มีต่อ "ช่องว่างทางสังคม"












องค์ประกอบของโรงเรียนในฝัน
ผลผลิต | กระบวนการ | ปัจจัย |
![]() | กระบวนการเรียนรู้ ![]() | ![]() |
![]() | ![]() | ![]() |
![]() | ![]() | ![]() |
การบริหารจัดการ ![]() | ![]() และท้องถิ่น และมีความเป็นสากล | |
![]() | ![]() และเอื้อต่อการเรียนรู้ | |
![]() | ![]() หลากหลาย | |
![]() | ![]() และชุมชนแข็งแรง | |
การประกันคุณภาพ ![]() |
1 ความคิดเห็น:
ขอบคุณที่ให้ความรู้ โจ
แสดงความคิดเห็น